วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

แผ่เมตตา ...อย่าให้ชักช้า

 รูปภาพ : ::: ปฏิปทาแห่งหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ :::

๗.  หลวงปู่ท่านไม่พยากรณ์มรรคผลให้ใคร ๆ
           
หลวงปู่จะไม่พูดทำนายทายทัก หรือ พูดพยากรณ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพยากรณ์เรื่องมรรคผลของลูกศิษย์
หลวงปู่ไม่เคยบอกว่า ศิษย์คนไหนเป็นโสดา สกิทา อนาคา ฯลฯ
หลวงปู่ไม่เคยบอกว่า ใครปฏิบัติอีกกี่ชาติแล้วจะสำเร็จ
หลวงปู่ยืนยันว่า ท่านพยากรณ์ไม่ได้

ซึ่งหากเราพิจารณาให้ดีก็จะเห็นจริงตามท่าน
เพราะแค่จะรับรองตัวเองว่า ในแต่ละวันขอให้มีความขยันในการเจริญสติให้สม่ำเสมอ ก็ยังรับรองตัวเองไม่ได้เลย
นอกจากนี้ที่จะให้รับรองความศรัทธาของตัวเราเองที่มีต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์
ให้มั่นคงตลอดไปก็ยังไม่แน่นอนเลย บางวันศรัทธามาก บางวันศรัทธาน้อย
บางวันขยันปฏิบัติ บางวันขี้เกียจปฏิบัติ บางวันรักษาใจได้ดี บางวันเผลอสติจมจ่อมอยู่กับเรื่องโลก ๆ 
บางคนที่เคยเป็นผู้นำหมู่คณะ ก็ยังสามารถเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นได้เลย

เช่นนี้แล้ว ใครจะมารับรองใครได้
เว้นเสียแต่เป็นผู้ที่เที่ยงแท้ เช่นอย่างพระโสดาบันผู้มีศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างไม่หวั่นไหวแล้วเท่านั้น
ที่พระพุทธองค์สามารถพยากรณ์ได้ว่า ไม่เกิน ๗ ชาติ ก็จะถึงฝั่งพระนิพพาน เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้ว หากยังมีความลุ่ม ๆ ดอน ๆ เอาแน่นอนไม่ได้
ยามขยันก็เพียรจัด ยามขี้เกียจก็ทิ้งเลย
ยังเป็นผู้ติดสุข ติดสบาย และสามารถหาเหตุผลเข้าข้างกิเลสตัวเองได้สารพัด
เช่นนี้แล้วจะพยากรณ์ได้อย่างไร

ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณดา ภรรยาของเฮียอู๋ (โยมอุปัฏฐากคนหนึ่งของหลวงปู่)
 ก็ได้เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในมุมที่บางคนอาจจะมองข้ามไป จึงนำมาเล่าสู่กันฟัง

คุณดาเล่าอานิสงส์ของบทพุทธังอนันตังฯ (บทแผ่เมตตา) ที่หลวงปู่สอน
(บทเต็มๆคือ "พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะปัจจะโยโหตุ")
ว่าเธอได้ใช้เป็นประจำ และก็สังเกตว่ามันได้ผลมาก 

หลายครั้งที่เจอเหตุการณ์ที่สุนัขดุ ๆ จะมากัดเธอ
เธอก็ตั้งจิตแผ่เมตตาโดยว่าพุทธัง อนันตังฯ 

สุนัขนั้นก็กลับเป็นมิตร กระดิกหางให้

เธอยังเล่าว่าหลวงปู่เคยกำชับเธอว่า
"เวลามีใครมาขอส่วนบุญ จะมามัวว่า อิมินาปุญญกรรมเมนะฯ (บทกรวดน้ำใหญ่) มันจะไม่ทันกิน 

เพราะบางดวงจิตเขามีเวลาประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น"

อันนี้ไปสอดคล้องกับคำสอนหลวงพ่อฤาษี (พระราชพรหมยาน) 

ที่ท่านก็พูดสอนไว้ทำนองเดียวกัน
ท่านสอนให้ตระหนักว่าบางครั้งดวงวิญญาณเขาแอบหนี

หรือขออนุญาตนายนิรยบาลมาโมทนาบุญจากญาติ
หรือคนที่สามารถจะสงเคราะห์เขาได้ เพียงแค่ชั่วระยะเวลาสั้นมาก ๆ
หากเรามัวแต่ตั้งท่าไล่บทกรวดน้ำตั้งแต่ให้คุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ 

เทพที่ดูแลพระอาทิตย์ พระจันทร์ ญาติมิตร ศัตรู ฯลฯ
ก็พอดีหมดเวลา เขาต้องกลับไปถูกจองจำชนิดกลับไปมือเปล่า น่าสงสาร

 คุณดาจึงบอกว่าบท พุทธังอนันตังนี้ หลวงปู่ตั้งใจให้มันสั้น 
เพื่อให้มันทันกันกับเหตุการณ์จำเพาะหน้า
เอาไว้เหตุการณ์ปกติไม่มีอะไร 

เราก็ค่อยว่าบทกรวดน้ำตามแบบเขา ซึ่งนิยมสวดกันหลังทำวัตรเย็น

ลูกศิษย์หลวงปู่บางคนเล่าว่า พอได้กลิ่นสาบสาง

 (ชนิดที่มักได้กลิ่นอยู่คนเดียว คนใกล้เคียงไม่ได้กลิ่นนั้นด้วย) โดยไม่รู้สาเหตุ
ก็มักตั้งจิตเจตนาไปที่ต้นแหล่งที่มาของกลิ่น

 แล้วก็แผ่เมตตา คือ พุทธัง อนันตังฯ ในทันที 
เรียกว่าปลอดภัยไว้ก่อน ไม่เสียหลายอะไร

นี้แหละ จึงว่าแผ่เมตตาในยามคับขัน ต้องทำให้เร็ว ให้ทันการณ์ 

ซึ่งนอกจากวิญญาณเขาจะได้รับส่วนบุญโดยตรงและโดยเร็วแล้ว
ตัวเราเองก็จะคุ้นเคยกับการเจริญสติ ตั้งสติ 

ระลึกถึงพระได้เร็ว ชนิดอัตโนมัติ จนกลายเป็นนิสัยอีกด้วย

credit :จากบทความของคุณ พรสิทธิ์
www.luangpordu.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น